กันภัยมหิดล : พรรณไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
ดร. ศศิวิมล แสวงผล และ ดร. ทยา เจนจิตติกุล
ภาควิชาพฤกษศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ในที่สุด " กันภัยมหิดล " ก็ได้รับเลือกให้เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เขียนในนามคณาจารย์ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้รับรางวัลจากการประกวดในครั้งนี้ร่วมกับ รศ . วงศ์สถิตย์ ฉั่วกุล ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ กับ ผศ . นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงขอเรียบเรียงเรื่องราวการประกวดต้นไม้สัญลักษณ์ครั้งนี้ เพื่อบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยฯ
ปฐมเหตุ เนื่องในวันครบรอบ 30 ปี แห่งการพระราชทานนามมหาวิทยาลัย ในวันที่ 2 มีนาคม พ . ศ .2542 มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดการประกวดต้นไม้สัญลักษณ์ ด้วยความเห็นที่ว่ามหาวิทยาลัยยังไม่มีต้นไม้สัญลักษณ์ที่เป็นทางการดังเช่นสถาบันการศึกษาอื่น ทำให้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยมหิดลดำริที่จะหาต้นไม้ใหม่เป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการและไม่ซ้ำกับที่อื่นจึงได้ตั้งกฎเกณฑ์การประกวดว่า ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มีความเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยมหิดล ในแง่ใดแง่หนึ่งและไม่ซ้ำกับพรรณไม้สัญลักษณ์ของสถาบันการศึกษาอื่นในประเทศไทย
สุดท้าย มหาวิทยาลัยมหิดลประกาศว่า มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดถึง 202 คน มีต้นไม้ที่ถูกเสนอชื่อ 123 ต้น และตัดสินให้ " กันภัยมหิดล " เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ โดยสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ได้ประทานพระกรุณาธิคุณทรงมีพระวินิจฉัยชี้ขาด ด้วยเหตุผลว่า เป็นต้นไม้ที่พบในประเทศไทย สามารถปลูกได้ง่าย มีนามเป็นมงคล มีชื่อพ้องกับนามมหาวิทยาลัย และมีลักษณะสวยงามแม้จะเป็นไม้เถา แต่ก็สามารถจัดแต่งเป็นทรงพุ่มได้หลายแบบ มีอายุยืนหลายปี และเมื่อเถาแห้งไป ก็สามารถงอกงามขึ้นได้ใหม่ ซึ่งความเป็นไม้เถานี้สื่อความหมายถึงความก้าวหน้า และความสามารถในการปรับตัวให้พัฒนาไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างดี
พืชชนิดนี้ พบครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ . ศ .2510 โดยนาย เกษม จันทรประสงค์ ซึ่งขณะนั้นเป็นข้าราชการกองพืชพรรณ กรมวิชาการเกษตร ( ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย) ได้เล่าเรื่องการพบพืชชนิดนี้ว่าท่านนั่งรถไฟไปลงที่สถานีวังโพ และเดินทางขึ้นภูเขาเตี้ยๆ หลังสถานีทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำแควน้อย เมื่อถึงเวลาเที่ยง ท่านได้หยุดพักรับประทานอาหารที่ใต้ต้นไม้ ได้พบดอกไม้ชนิดหนึ่งร่วงอยู่ที่พื้น ท่านรู้สึกคุ้นกับลักษณะดอก เพราะคล้ายถั่วแปบช้างแต่คนละสี เมื่อมองขึ้นไปและเก็บลงมาเพื่อทำตัวอย่างแห้ง อีก 2 เดือนถัดมา คือวันที่ 15 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ท่านได้นำผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิรายุพิน จันทรประสงค์ ( เจิมศิริวัฒน์ ) เดินทางกลับไปที่เดิมเพื่อเก็บฝักที่เริ่มแก่ ให้ได้ตัวอย่างที่สมบูรณ์และขุดต้นกลับมาปลูกที่กรมวิชาการเกษตร สำหรับระบุ (identify) ว่าต้นไม้นี้จะเป็นต้นไม้ชื่ออะไร เมื่อต้นไม้ต้นนี้ออกดอกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2511 จึงได้เก็บตัวอย่าง ซึ่งเป็นตัวอย่างต้นแบบ พร้อมทั้งทำคำบรรยายเป็นภาษาละตินและวาดภาพส่งไปให้ Mr. B. L Burtt พิสูจน์ชื่อที่สหราชอาณาจักร พร้อมทั้งขอพระราชทานชื่อเพื่อเป็นเกียรติกับพระชนนีศรีสังวาลย์ ( พระยศในขณะนั้น ) โดยเสนอคำว่า ศรีสังวาลย์ หรือมหิดล Mr. Burtt ได้แนะนำว่าให้ใช้มหิดล ซึ่งเขียนเป็นภาษาละตินว่า mahidolae ทั้งนี้ในขณะนั้นถั่วแปบช้าง ( Afgekia sericea Craib) ซึ่งเป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายกันมากและอยู่ในสกุล (genus) เดียวกัน คือ สกุลแอฟกีเกีย ( Afgekia ) เป็นพืชชนิดเดียวในสกุล ด้วยลักษณะที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดหลายประการ ผศ . จิรายุพิน จึงแน่ใจว่าพืชต้นนี้เป็นพืชต่างชนิดแน่นอน และจะเป็นพืชชนิดที่สองในสกุลนี้ (ปัจจุบันค้นพบอีกชนิดหนึ่งคือ Afgekia filipes (Dunn) R.Geesink ซึ่งมีดอกสีเหลือง กระจายพันธุ์ทางตอนใต้ของจีนและทางเหนือของไทย) เมื่อผลงานการค้นพบ และตั้งชื่อพืชชนิดนี้ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารของสวนพฤกษศาสตร์เอดินเบอเรอ ชื่อ Notes from the Botanic Garden Edinburgh Vol.31 No.1 ในเดือนกรกฏาคม พ . ศ . 2514 จึงได้ถือว่าพืชชนิดนี้มีชื่อเป็นทางการตามกฏเกณฑ์ทางพฤกษศาสตร์ ชื่อที่ได้รับคือ Afgekia mahidolae B. L. Burtt & Chermsir. แต่ไม่มีชื่อไทย ส่วนถั่วแปบช้างนั้นมีชื่ออื่นๆ อีก เช่น กันภัย ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันทน์ ผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์กรมป่าไม้ จึงได้เสนอว่าควรเรียกพืชต้นนี้ว่า กันภัย หรือกันภัยมหิดล ท่านกล่าวว่าในเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนที่ย่างกุมารทองนั้น ได้ใช้เถากันภัยมัดกุมารทองไว้ และด้วยเหตุที่เรื่องขุนช้างขุนแผนเป็นเรื่องที่เกิดในแถบจังหวัดกาญจนบุรี และสุพรรณบุรี เถากันภัยดังกล่าว จึงน่าจะเป็นพืชชนิดเดียวกับพืชที่เพิ่งค้นพบนี้
สำหรับชื่อพฤกษศาสตร์ Afgekia mahidolae นั้น มีการแก้ไขให้ถูกต้องตามไวยากรณ์ภาษาละติน โดยเติม -i- หลัง -l- เป็นดังนี้ Afgekia mahidol i ae ตาม International Code of Botanical Nomenclature ฉบับแก้ไขครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นผลจากการชำระกฎการตั้งชื่อพฤกษศาสตร์เมื่อ ปี พ.ศ. 2548 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เรียกกฎเล่มนี้ในชื่อย่อว่า Vienna Code ตีพิมพ์เมื่อ ปี พ.ศ. 2549) โดยคำแนะนำข้อ 60 C .1.b ระบุว่าชื่อพฤกษศาสตร์ที่ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแด่บุคคล ถ้าชื่อบุคคลลงท้ายด้วยตัวสะกด ให้เติม -i- และรูปคำระบุเพศต่อท้าย เช่น ชื่อบุคคลชาย Winit เป็น winitii ชื่อบุคคลหญิง Thaithong เป็น thaithongiae เป็นต้น
กันภัยมหิดล ( Afgekia mahidoliae B. L. Burtt & Chermsir.)
วงศ์ FABACEAE ( หรือ LEGUMINOSAE)
วงศ์ย่อย Papilionoideae
ถิ่นกำเนิด เป็นต้นไม้พื้นถิ่นของไทย พบตามป่าเต็งรัง ภูเขาหินปูนในภาคตะวันตก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์ เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ขนาดกลาง อายุหลายปี กิ่งอ่อนสีเขียว มีขนนุ่มทั่วไป
ใบ ออกสลับ ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ ใบย่อย รูปรีแกมขอบขนานขนาด 2.2-3.5 x 5- 6.5 เซนติเมตร แผ่นใบบาง ใต้ใบมีขนหนาแน่นกว่าด้านบนใบ
ดอก ออกเป็นช่อกระจะตามซอกใบและปลายกิ่ง ช่อยาว 12- 25 เซนติเมตร ดอกทยอยบานจากโคนช่อมาปลายช่อ 4-6 ดอก กลีบประดับสีม่วงอมเขียว รูปเรียว กลีบเลี้ยงสีม่วงอ่อน โคนกลีบเชื่อมติดกันปลายแยก 5 แฉก ดอกรูปดอกถั่ว มี 5 กลีบ กลีบกลางสีม่วง โคนกลีบมีแถบสีเหลืองรูปสามเหลี่ยม กลีบคู่ข้างสีม่วงเข้ม กลีบคู่ล่างสีเหลืองอ่อน มีขนปกคลุม ออกดอกเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน
ผล เป็นฝักรูปแถบ สั้น ขนาด 2-4 x 7- 9 เซนติเมตร สีน้ำตาล มีขนปกคลุม เมื่อแก่แตกเป็นสองซีก
เมล็ด รูปกลม 2 เมล็ด เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เซนติเมตร สีดำเป็นมัน
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด
สภาวะเหมาะสม แสงแดด
ประโยชน์ ปลูกประดับซุ้มไม้เลี้อย
บรรณานุกรม
เต็ม สมิตินันทน์ 2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพ.
เภสัชพฤกษศาสตร์ , ภาควิชา , คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล . 2539. สมุนไพรพื้นบ้านล้านนา (วงศ์สถิตย์ ฉั่วกุล บรรณาธิการ) พิมพ์ครั้งที่ 1 ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กรุงเทพฯ.
สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ. คณะอนุกรรมการจัดทำหนังสือสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์. 2549 . พันธุ์พฤกษชาติตั้งชื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี : กันภัยมหิดล. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ . อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง กรุงเทพฯ หน้า 29-31.
Burtt, B. L. and Chermsirivathana, C. (1971) A Second Species of Afgekia (Leguminosae). Notes from the Royal Botanic Garden Edinburgh 31(1), 131-133.
McNeill, J. B., Burdet, F. R., Demoulin, H. M., Hawksworth, D. L., Marhold, K., Nicolson, D. H., Prado, J., Silva, P.C., Skog, J. E., Wiersema, J. H. & Turland, N. J. (editors). 2006. International Code of Botanical Nomenclature ( Vienna Code) . Gantner , Ruggell , Liechtenstein.
|